ผมมักจะตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ flop open-end straight draw
มันยอดเยี่ยมมากๆที่จะติด 1 ใน 8 out นั้น แล้วได้ชนะ pot ใหญ่ๆ
ผมพร้อมที่จะ bet เช่นเดียวกับการเล่นของคนส่วนใหญ่
แต่การเล่น straight draw ที่ถูกต้องก็ไม่ได้ง่ายเสมอไป บทความนี้อาจช่วยให้คุณเล่นได้ดีขึ้นในสถานการณ์ต่างๆนี้:
- วิธีเล่น Open-Ended Straight Draw เมื่อเป็น Preflop Raiser (Single Raise Pot)
- วิธีเล่น Open-Ended Straight Draw เมื่อเป็น Preflop Caller (Single Raise Pot)
- คำแนะนำสั้นๆสำหรับ Multiway Pot
มาเริ่มกันได้เลย!
Single Raise Pot: Heads-Up
มีอยู่ 2 สถานการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยกว่าสถานการณ์อื่นๆมาก:
- In position เมื่อเป็น preflop raiser จาก BTN
- Out of position เมื่อเป็น preflop caller จาก BB เจอกับ BTN
เราจะโฟกัสกันที่ 2 สถานการณ์นี้ในตัวอย่างด้านล่าง
Open-Ended Straight Draw เมื่อเป็น Preflop Raiser
Open-ended straight draw มักจะมีโอกาสที่ดีในการเป็น best hand เมื่อไปถึง river
ด้วยเหตุผลนี้เราจึงควร bet ด้วย open-ender เสมอเพื่อเริ่มสร้าง pot และเพื่อ deny equity ของคู่ต่อสู้
Solver ก็คอนเฟิร์มในหลักการเล่นนี้เช่นกัน บนทุก flop ที่ไม่ใช่ monotone…solver มักจะ bet ด้วย open-ender เสมอด้วย frequency ที่สูงมากๆเกือบ 100%
ลองมาดูการว่า PioSolver มีวิธีการเล่นยังไงกับ flop J♠ T♥ 5♦ เมื่อเป็น BTN preflop raiser เจอกับ BB preflop caller:
บน flop นี้ open-end straight draw คือ KQ, Q9 และ 98
เราจะเห็นว่า bet frequency (bet 2 ลงใน pot 6) นั้นเกือบจะ 100% เลยทีเดียว ในการเล่นจริง เราสามารถที่จะ bet 100% ไปได้เลย (ยกเว้นว่าเจอกับ aggressive player ที่จะตอบโต้ check back range ของเราเมื่อ straight complete)
Open-Ended Straight Draw เมื่อเป็น Preflop Caller (Out of Position)
หลังจากที่ได้ defend ไปจาก BB คู่ต่อสู้ของเรามักจะ c-bet ต่อ
เมื่อเราต้องเจอกับ c-bet กลยุทธ์การตอบโต้ที่ดีที่สุดที่เราสามารถทำได้คือ check-raise ด้วยแฮนด์ที่ดีที่สุดใน range เพื่อ build pot และ เรียก value ซึ่งเราจะต้อง balance แฮนด์ที่ดีที่สุดพวกนั้นด้วย semi-bluff ไม่งั้นคู่ต่อสู้จะสามารถ exploit เราด้วยการ fold มากเมื่อเจอกับ check-raise ของเรา และบางตัวเลือกที่ดีที่สุดในการ semi-bluff ก็คือ open-end straight draw
อย่างไรก็ตาม เราไม่ควรที่จะ check-raise เสมอด้วย open-end straight draw การเล่น out of position โดยมี SPR สูงนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ดังนั้นกลยุทธ์การเล่นที่ดีที่สุดจึงมีความซับซ้อน และมี range มากขึ้นที่ต้อง balance
เพื่อที่จะป้องกัน range ของเราให้แข็งแกร่ง เราจะต้องมีทั้ง check-call และ check-raise ด้วย open-ender ซึ่งรายละเอียดจะขึ้นอยู่กับแต่ละ flop และสถานการณ์
มาดูกันที่อีก 1 ตัวอย่างจาก PioSolver ซึ่งยังเป็น J♠ T♥ 5♦ rainbow board ในสถานการณ์ BTN vs BB เช่นเดิม แต่งเป็นมุมมองของ BB เมื่อเจอกับ c-bet:
จากคำแนะนำของ solver เราจะเห็นได้ว่า KQ, Q9 และ 98 ล้วนเป็น mixed strategy ทั้งหมด ซึ่งหมายความว่า solver เห็นว่าสิ่งที่ดีที่สุดคือแบ่งแฮนด์เหล่านี้ให้มีทั้ง check-call และ check-raise
ถ้าเราได้ลองไตร่ตรองดู ก็จะเห็นได้ว่าการเล่นของ solver นั้นมีเหตุผลที่ค่อนข้างจะชัดเจน
ลองคิดดูว่าคู่ต่อสู้ของเราจะสามารถ exploit เราได้อย่างไรถ้ารู้ว่าเราจะ check-raise เสมอด้วย open-ended straight draw เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเพียงแค่ call และ turn complete straight คู่ต่อสู้ก็จะสามารถกดดันเราได้อย่างเต็มที่ด้วย bet ใหญ่ๆ ซึ่งเราจะไม่สามารถทำอะไรได้เลยเพราะ range ของเราถูก capped ด้วยแฮนด์ที่แย่กว่า straight ไปแล้ว
Open-Ended Straight Draw เมื่อเป็น Preflop Aggressor ใน Multiway Pot
Solver ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการศึกษา heads-up pot แต่ไม่ใช่ใน multiway pot ดังนั้นในส่วนนี้เราจะมาใช้สัญชาตญาณกัน
ถึงแม้ว่าจะเป็น preflop raiser ก็ยังมีข้อถกเถียงไม่ว่าจะเป็นการ bet หรือ check ด้วย draw ใน multiway pot
ทางเลือกแรก เราสามารถ bet เพื่อกดดันให้ weak pair และแฮนด์ทั่วๆไปที่ไม่มีอะไร fold ได้ แต่โอกาสที่จะมีใครถือแฮนด์ดีๆนั้นสูงกว่าเมื่อมีจำนวนผู้เล่นมากกว่าอยู่ใน pot ดังนั้น bet ของเราจึงมีโอกาสน้อยลงที่จะเอาชนะ pot ไปได้ที่ flop และเรายังจะถูก raise บ่อยขึ้น ซึ่งทำให้เรา realize equity ได้ยากมากขึ้น
ถ้าเราตัดสินใจที่จะ bet ก็ควรจะใช้ size เล็กๆ เป้าหมายของเราคือกดดันให้แฮนด์อ่อนๆและพวกไพ่คู่อ่อนๆ fold – แฮนด์ที่แข็งๆจะยังไม่ยอมแพ้ ถึงแม้เราจะ bet ใหญ่ก็ตาม การใช้ size ใหญ่ๆจะทำให้คู่ต่อสู้เล่นอย่างถูกต้องได้ค่อนข้างง่าย (เพราะพวกเขาจะ fold เสมอ และจะ call หรือ raise เมื่อมีแฮนด์ดีๆเท่านั้น)
ในอีกด้านหนึ่ง การ check จะช่วยให้เรา realize equity ได้ฟรีหรือถูกๆ แต่นั่นก็หมายความว่าคู่ต่อสู้ก็ได้ realize equity ฟรีด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงมีการแลกเปลี่ยนอย่างชัดเจน และทำให้ไม่มีตัวเลือกใดตัวเลือกหนึ่งที่ดีกว่าอย่างชัดเจน
เมื่อมี open-ender ใน multiway pot เราก็ควรใช้วิจารณญาณที่ดีที่สุดในการตัดสินใจว่าจะ bet หรือ check พิจารณาว่า range ของคู่ต่อสู้เกี่ยวข้องกับ flop อย่างไรบ้าง เรามีโอกาสถูก raise มากแค่ไหน แนวโน้มของคู่ต่อสู้ และข้อมูลอื่นๆที่จะช่วยให้เราตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง
สรุปส่งท้าย
Open-ender เป็นแฮนด์ที่เล่นได้สนุก บ่อยครั้งที่เราควรเล่นพวกมันอย่าง aggressive เพื่อให้เราเอาชนะ pot โดยไม่ต้องไปถึง showdown ได้บ่อยๆ แต่ถึงแม้จะถูก call เราก็ยังมีอีก 8 out ที่จะช่วยให้เราติด straight และกิน pot ใหญ่ๆมาได้