แชร์แนวทางวางแผนการเล่นของสาย Cash Game

คำถามที่ผมมักจะเจอเวลาไลฟ์สตรีมเล่นแคชเกมก็คือเรื่องของการ “บริหารการเล่น” ในแต่ละ session เป็นต้นว่า

“แบ่งเวลาเล่นวันหนึ่งยังไง?”

“เล่นแล้วเลิกเมื่อไหร่?”

“กำหนดกำไรขาดทุนต่อวันไหม?”

ฯลฯ

ดังนั้น วันนี้ผมจะมาขอแชร์กับ topic เบาๆตามหัวข้อ ว่าผมมีแนวทางการวางแผนและบริหารการเล่นแคชเกมของผมยังไงกันบ้าง จนสามารถทำกำไรระยะยาว และรักษา Bankroll ได้อย่างยั่งยืน

=================================

  1. ควรจะเล่นวันหนึ่งเยอะแค่ไหน?

    ความเยอะน้อยในการเล่นแคชเกมแต่ละวัน โดยปกติแล้ว เรามักจะนับในมิติของระยะเวลา (ชั่วโมง) หรือไม่ก็จำนวนแฮนด์ เป็นหลัก ซึ่งตรงนี้ จะมากจะน้อย ก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคนเลย บางคนที่เล่นเป็นอาชีพ ก็อาจจะเล่นทั้งวันทั้งคืน แต่สำหรับผมที่มีอาชีพหลักต้องทำและเล่นโป๊กเกอร์เป็นอาชีพเสริม ก็จะแบ่งเวลาเล่นเพียงวันละ 1 session session ละประมาณ 2 ชั่วโมง โดยจะพยายามเล่นให้ได้พร้อมกัน 3 โต๊ะ ก็จะได้โต๊ะละประมาณ 60 แฮนด์ต่อชั่วโมง ดังนั้น วันหนึ่ง ผมก็จะเล่นได้ประมาณ 60 x 3 x 2 = 360 – 400 แฮนด์ โดยเฉลี่ย  (บางวันอาจจะไม่ได้เล่น, อาจจะเล่นน้อยกว่านี้, อาจจะเล่นมากกว่านี้)

=================================

  1. ควรจะเลิกเมื่อไหร่? มีกำหนดกำไรขาดทุนต่อวันไหม?

โดยปรกติแล้ว วันไหนไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติ ผมก็จะเล่นให้ครบ session ตามที่ตัวเองกำหนด ไม่ว่าจะได้กำไรหรือขาดทุนเท่าไหร่ แต่จะเลิกก่อนครบ session ถ้าเกิดวันนั้นผมต้องเผชิญกับสถานการณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง คือ

– ผมรู้สึกว่าร่างกายไม่พร้อม เหนื่อยล้า ปวดตา ปวดหัว รู้สึกแบบนี้เมื่อไหร่ ผมจะหยุดเล่นไปพักทันที

– เป็นวันที่ผมรันไม่ดี เสียติดๆกัน 2-3 buy-in แล้วผมรู้สึกว่า อะไรๆก็ไม่เข้าทางเลย ผมจะเลือกยอมแพ้ แล้วเลิกเล่นทันที แม้จะยังไม่ครบ session ที่ตั้งไว้ เพื่อคุมความผันผวน และคุมอารมณ์ในวันนั้น ไม่ให้ไหลไปมากกว่านี้ แต่หากได้กำไรมากๆ ผมก็ยังเล่นต่อไปเรื่อยๆจนครบ session เหมือนเดิม

=================================

  1. ควรจะเขยิบ stake ไปเล่นเกมที่ใหญ่ขึ้นเมื่อไหร่ดี?

ตอบแบบกำปั้นทุบดินก็คือ “ขึ้นไปเล่นได้เมื่อพร้อม” พร้อมในที่นี้ อาจจะดูใน 3 แง่มุมคือ

– Bankroll พร้อม คือ ทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอและปั้น Bankroll จนใหญ่พอสำหรับ stake ที่สูงขึ้น (40 buy-in ขึ้นไป)

– ฝีมือพร้อม คือ เล่นจนมั่นใจว่าตัวเองเก่งกว่าผู้เล่นโดยเฉลี่ย หรือเป็น winning player ใน stake เดียวกันแล้ว และอยากจะท้าทายตัวเองใน stake ที่สูงขึ้น

– ประสบการณ์พร้อม คือ เล่นใน stake เดิมมามากพอ ในการสะสมกำไรและปั้น Bankroll (ไม่ใช่แค่โชคดีได้กำไรมากๆในระยะเวลาอันสั้น) อาจจะไม่น้อยกว่า 20,000 แฮนด์ใน stake นั้น

หากผ่านเงื่อนไขทั้ง 3 ข้อ เราก็อาจจะลอง take shot ขึ้นไปเล่นในเกมที่ stake สูงขึ้นอีกระดับได้ แต่หากเรายังสบายใจที่จะเล่น stake เดิมไปเรื่อยๆ ก็ได้เช่นกัน (เพียงแต่ Bankroll จะโตช้าลง)

=================================

  1. ควรถอนกำไรจาก Bankroll มาใช้ได้ไม่เกินเท่าไหร่ดี?

เรื่องนี้ไม่ได้สูตรตายตัว ขึ้นอยู่กับความจำเป็น และเป้าหมายของการเล่นโป๊กเกอร์ของแต่ละคนว่า

– ถ้าใครจำเป็นต้องเล่นโป๊กเกอร์เพื่อหารายได้เลี้ยงชีพ ก็อาจจะต้องเตรียม Bankroll จำนวนมากกว่าปกติ (100 buy-in ขึ้นไป) และอาจถอนกำไรมาเก็บไว้เป็นเงินส่วนตัว มากกว่าครึ่ง โดยเฉลี่ย (มากกว่า 50% ของกำไร เดือนไหนขาดทุน ก็ไม่ต้องถอน)

– ถ้าใครไม่มีความจำเป็นต้องมีรายได้จากโป๊กเกอร์มากนัก และอยากเก็บสะสมกำไรไว้เน้นปั้น Bankroll ให้โตเร็วๆมากกว่า ก็อาจจะถอนกำไรมาเก็บไว้เป็นเงินส่วนตัว น้อยกว่าครึ่ง โดยเฉลี่ย (น้อยกว่า 50% ของกำไร) หรือถ้าไม่จำเป็นต้องใช้เงินจากโป๊กเกอร์เลย ก็ไม่ต้องถอนเงินจาก Bankroll มาใช้เลย โดยเอากำไรทั้งหมดไว้ใน Bankroll เพื่อปั้น Bankroll ให้โตเร็วๆเหมือนผม ก็ได้เช่นกัน

=================================

  1. ควรบริหาร Bankroll อย่างไร ไม่ให้ Bankroll แตก?

การจะไม่ให้ Bankroll แตก หรือเสียเงินไปจนหมด นอกเหนือจากที่เราต้องเตรียม Bankroll ให้มากพอแล้ว อีกวิธีที่จะช่วยได้ นั่นก็คือการ “ลดระดับของเกมลง” เมื่อเราขาดทุนไปเยอะๆ ก็จะช่วยให้ Bankroll เราไม่เสียหายหนักมากได้

โดยสำหรับผมนั้น ผมจะตั้งแนวทางการบริหารความเสี่ยงของ Bankroll เอาไว้ว่า ถ้าช่วงไหนที่เจอ downswing หรือ bad beat หนักๆอย่างต่อเนื่อง จนเสีย Bankroll ไปจนถึง ลบ 8 buy-in เมื่อไหร่ จะต้องลดระดับของเกมที่เล่น ลงไปเล่น stake ที่ต่ำกว่า 1 ระดับ จนกว่าจะปั้น Bankroll กลับมา บวก 8 buy-in ได้ ถึงจะกลับขึ้นมาเล่น stake เดิม (และถ้ายังลบอย่างต่อเนื่องอีก 8 buy-in ก็ต้องลดระดับการเล่นลงไปอีก 1 ระดับ ไปเรื่อยๆ)

การทำแบบนี้ จะเป็นการสร้างวินัยในการรักษา Bankroll ของเราไม่ให้เสียหาย แม้อาจจะทำให้ Bankroll กลับมาโตได้ช้า แต่รับรองว่า ถ้าเรารักษาวินัยได้แบบนี้ โดยไม่ความโลภเข้าครอบงำ ยังไง Bankroll ของ

เราก็ไม่มีวันแตกแน่นอน ถ้าเรารู้จักบริหารความเสี่ยงได้ดี 

=================================

ทั้ง 5 ข้อนั้นก็เป็นแนวทางการวางแผนและบริหาร Bankroll ของผมเอง ซึ่งทุกคนสามารถนำหลักการดังกล่าวไปใช้ และปรับให้เข้ากับแนวทางและเป้าหมายของตัวเองได้ทั้งสิ้น หวังว่าจะได้แนวทางที่เป็นประโยชน์เอาไปปรับใช้กันนะครับ

#Zuburbian1

#TeamAceAcademy