Geometric bet sizing? เป็นชื่อที่ฟังดูซับซ้อนเชิงคณิตศาสตร์ใช่ไหมล่ะ
ในความเป็นจริงมันก็ไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้นเลย จริงๆแล้วคุณน่าจะมีโอกาสได้ใช้หลักการนี้บนโต๊ะมาก่อนด้วยซ้ำ เพียงแค่คุณยังไม่รู้จักชื่อของมัน
เมื่อใช้ในสถานการณ์ที่เหมาะสม geometric bet sizing จะช่วยให้เราเอาชนะ stack ทั้งหมดของคู่ต่อสู้ได้บ่อยขึ้นเมื่อเราถือ strong hand นับว่าเป็นคุณสมบัติที่น่าสนใจเลยใช่ไหมล่ะ
บทความนี้จะพูดถึงหลักการของ pot geometry และ geometric bet sizing
Pot Geometry คืออะไร?
Pot geometry คือการอ้างอิงถึง bet size ที่ใช้ในแต่ละ street ว่าส่งผลกระทบต่อ final pot size ของ hand อย่างไร พูดง่ายๆก็คือ big bet size ทำให้ pot ใหญ่ขึ้นและ small bet size ทำให้ pot เล็กลง
ลองเปรียบเทียบสองสถานการณ์ที่มีข้อแตกต่างกันที่ bet size ที่ใช้ในแต่ละ street เท่านั้น
ตัวอย่างที่ 1: Small Bet ที่ Flop
สมมุติว่าเราได้ raise preflop 2.5bb ไปจาก CO ด้วย A♠ K♦ และ SB call
Pot 6bb และ flop เปิด Q♠ J♣ T♥ SB check แล้วเราได้ตัดสินใจ bet เล็กๆไป 2bb (33% pot-sized bet) SB call
Pot 10bb และ turn เปิด 7♣ SB check และเรา bet ไป 7.5bb (75% pot) SB call
Pot 25bb และ river เปิด 4♠ SB check และเรา bet ไป 18.75bb (75% pot) SB call
ผลลัพธ์: เราได้ 62.5bb pot ด้วย nut straight
ตัวอย่างที่ 2: Big Bet ที่ Flop
ลองมาดูจากตัวอย่างเดิมอีกครั้ง ด้วยความแตกต่างเดียวคือ bet size ที่ใหญ่ขึ้นบน flop
เราได้ raise preflop 2.5bb ไปจาก CO ด้วย A♠ K♦ และ SB call
Pot 6bb และ flop เปิด Q♠ J♣ T♥ SB check แต่ครั้งนี้เราได้ตัดสินใจ bet ค่อนข้างใหญ่ไป 4.5bb (75% pot-sized bet) SB call
Pot 14.5bb และ turn เปิด 7♣ SB check และเรา bet ไป 10.9bb (75% pot) SB call
Pot 36.3bb และ river เปิด 4♠ SB check และเรา bet ไป 27.2bb (75% pot) SB call
ผลลัพธ์: เราได้ 90.7bb pot ด้วย nut straight
สิ่งที่ได้เรียนรู้อะไรจากตัวอย่างนี้?
Bet size ที่ใช้ในช่วงแรกของ hand มีผลกระทบอย่างมากต่อ size ของ final pot เราจะชนะเงินได้มากขึ้นเกือบ 50% จากการเพิ่ม flop bet zie จาก 33% เป็น 75% pot
และเป็นเช่นเดียวกันในช่วง preflop สมมุติว่า preflop raise size จากตัวอย่างด้านบนเป็น 2bb แทนที่จะเป็น 2.5bb นั่นทำให้ pot size ที่ flop ลดลงเหลือ 5bb และถ้าเราดำเนินการเล่นด้วย bet size เดิมในตัวอย่างที่ 1 เราจะได้ final pot 51.9bb แทนที่จะเป็น 62.5bb ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่แตกต่างกันมากในเชิง EV สำหรับบาง hand ใน range ของเรา
เทคนิคจากโปร: ใน live game ผู้เล่นส่วนใหญ่จะมี static preflop range ซึ่งหมายความว่าพวกเขาไม่ได้ปรับ calling range ไปตาม preflop raise size เมื่อเจอกับผู้เล่นพวกนี้ เราก็สมควรที่จะ raise ใหญ่ขึ้นด้วย range ที่ tight กว่าปกติ
Geometric Bet Sizing คืออะไร?
Geometric bet sizing คือ bet size เดี่ยวๆ (ตามสัดส่วน % ของ pot) ที่สามารถใช้บนแต่ละ street ที่เหลืออยู่เพื่อให้ bettor สามารถ all-in (ด้วย bet size เท่าเดิมนั้น) กับ final bet ได้ มันไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบที่สุด แต่ก็ควรจะใกล้เคียง
Geometric sizing มักใช้ใน solution ของ poker solver เนื่องจากหนึ่งในเป้าหมายหลักเชิงกลยุทธ์ในเกมโป๊กเกอร์คือการเอาชนะคู่ต่อสู้ด้วย hand ที่ดีที่สุด Geometric bet size ช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายนั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ยกตัวอย่างเช่น เรากำลังอยู่ที่ turn และ pot 14bb เรามีเหลืออีก 93bb geometric bet size ในสถานการณ์นี้คือ 139% นั่นหมายความว่าเราจะต้อง bet turn ที่ 19.5bb เพื่อ set up all-in bet 73.5bb ที่ river
ลองมาดูจากอีก 1 ตัวอย่าง แต่ครั้งนี้จะเป็นสถานการณ์ 3-bet pot
สมมุติว่าเราได้ 3-bet preflop ด้วย AA และได้ bet เล็กๆบน J22 flop ทำให้มี 31bb ใน pot และเราเหลืออีก 85bb geometric bet size ในสถานการณ์นี้คือ 76% หมายความว่าเราต้อง bet 23.5bb เพื่อที่จะ set up all-in bet 61.5bb ที่ river
ถึงแม้จะมีสูตรทางคณิตศาสตร์ในการคำนวณ geometric bet size แต่มันก็ง่ายกว่าที่จะเพียงแค่ประเมิน geometric bet size ในเกม
Geometric bet size = 0.5x ( ( (pot + 2xeff_stack) / pot)^(1 / bets) – 1)
บทสรุปส่งท้าย
การที่จะใช้ geometric bet size ในเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น เราจะต้องเรียนรู้มันจะนอกโต๊ะ ด้วยการดูจาก solver solution ในหลายๆสถานการณ์ที่แตกต่างกัน และเราจะได้เห็นว่าสถานการณ์ไหนที่ solver เลือกใช้กลยุทธ์นี้
อย่าลืมว่า geometric bet sizing ไม่เหมาะสมกับทุกสถานการณ์ ยกตัวอย่างเช่น ถ้า geometric bet sizing ต้องใช้ overbet แต่เราไม่มี nut advantage เราก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงหลักการนี้และใช้ size bet ตามมาตรฐานปกติทั่วไป
source: https://upswingpoker.com/geometric-bet-sizing/