เคยเล่นรูปแบบเกมโป๊กเกอร์ 6+ กันหรือยัง

เกมโป๊กเกอร์ 6+ Hold’em หรือเรียกอีกอย่างว่า Short Deck เป็นชนิดของเกมโป๊กเกอร์ที่มีการเล่นคล้ายกับ Texas Hold’em คือ ทุกคนจะได้รับแจกไพ่ในมือคนละ 2 ใบ ไพ่กองกลาง 5 ใบ และรอบการเล่น 4 รอบ ได้แก่ Pre-flop, Flop, Turn และ River แต่ก็มีข้อแตกต่างกันอยู่เล็กน้อยคือ ไพ่ 2, 3, 4 และ 5 ทั้งหมดจะถูกนำออกจากสำรับที่ใช้ในการเล่น ดังนั้นในสำรับจึงมีไพ่เพียงแค่ 36 ใบแทนที่จะเป็น 52 ใบ และไพ่ A จะใช้แทนไพ่เรียง (Straight) ได้ 2 ตำแหน่งคือ A 6 7 8 9 กับ 10 J Q K A นอกจากนี้ระดับความแข็งแกร่งของลำดับไพ่ (Hand Ranking) ที่ใช้วัดก็มีความต่างกันกับ Texas Hold’em คือ ไพ่สี (Flush) จะใหญ่กว่า Full House

กฎ กติกา และลำดับไพ่ 6+

  • ใน 6+ Hold’em จะมีกฎที่แตกต่างกันกับเกมโป๊กเกอร์ประเภท Texas Hold’em คือ ไพ่สี (Flush) จะใหญ่กว่า Full House โดยผู้เล่นมือใหม่ส่วนใหญ่อาจจะสับสนได้ เนื่องจาก NLH หรือ Texas Hold’em ปกติ ไพ่ที่ติด Full House จะใหญ่กว่า Flush 
  • การเล่น 6+ จะไม่มี Big Blind, Small Blind แต่จะเป็นการลง Ante แทน เช่น ห้อง $1 ก่อนเริ่มเล่นผู้เล่นทุกคนต้องลง $1 ทุกคน ยกเว้นตำแหน่ง BTN ต้องลง 2 เท่า ของ Ante ( 1+1 = 2$) และยกเลิก การลง BB, SB เนื่องจากลง Ante ทุกคนแล้ว
  • A สามารถติด Straight ได้ 2 ตำแหน่ง คือ A 6 7 8 9  และ 10 J Q K A

เทคนิคการเล่น 6+ Hold’em

1. การคัดไพ่เริ่มต้นมาเล่น

เมื่อกฎกติกาของเกมต่างกันคุณก็ต้องมีเทคนิควิธีการเล่นและการเลือกไพ่เริ่มต้นมาเล่นที่ต่างกันด้วย ใน 6+ ไพ่จะติดง่ายขึ้นมาก เราจึงเน้นให้ติดไพ่ใหญ่ๆอย่าง Full House หรือ Flush มากกว่าที่จะไปติดแค่ 1 หรือ 2 คู่ โดยคำแนะนำในการเลือกไพ่อ้างอิงจากลำดับไพ่มาเล่นก็จะมีดังนี้

    • ความแข็งแกร่งของลำดับไพ่ใน 6+ จะต่างกับ NLH เช่น ถ้าคนที่มีพื้นฐาน NLH อาจจะมองว่าไพ่อย่าง Axs เช่น A6s หรือ A8s ไม่ควรที่จะเล่นตำแหน่ง UTG แต่พอมาเล่นใน 6+ ไพ่ Axs จะมีค่ามากขึ้น เพราะเวลา Flop ออกมา คุณมีโอกาสติด Flush ใหญ่ที่สุดได้ และยังสามารถพัฒนาจนติด Straight ล่าง A-6-7-8-9 หรือ Straight บน 10 J Q K A ได้อีกด้วย
    • ไพ่คู่ (Pocket Pairs) และ ไพ่สี (Suited) จะมีค่ามากขึ้นใน 6+ นั่นก็เพราะไพ่ Suited สามารถติด Flush ได้ และไพ่คู่สามารถพัฒนาไปสู่ไพ่ Set ดังนั้นพวกไพ่คู่จะยิ่งมีค่ามากขึ้น

2. คำนวณ Odd 

ถ้าใครยังไม่เชี่ยวชาญการคำนวณ ทางเราได้นำตารางคำนวณสำเร็จแล้วมาให้สำหรับผู้เล่นมือใหม่ เพื่อง่ายต่อการใช้งานมากขึ้น แต่หากใครต้องการศึกษาวิธีการคำนวณ สามารถศึกษาได้จากบทความต่อจากนี้ได้เลย

PotOdds6+

ใน Texas Hold’em จะมีกฎ 2 และ 4 ช่วยในการคำนวณ Outs อย่างง่าย ซึ่งใน 6+ ก็มีเช่นกัน แต่เปลี่ยนจากกฎ 2 และ 4 เป็น 3 และ 6 เนื่องจาก 6+ จะมีไพ่ในสำรับน้อยลงซึ่งเป็นเหตุผลให้โอกาสในการออกไพ่เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน ซึ่งสามารถนับได้จากหลังจากที่ Flop ออกมา ให้คุณนับ Outs ทั้งหมดที่คุณคิดว่ายังเหลืออยู่แล้วนำไปคูณ 6 เพื่อหาโอกาสที่ไพ่ที่จะทำให้คุณมีโอกาสชนะในช่วง Turn หรือนำไปคูณ 4 เพื่อหาโอกาสที่จะชนะในช่วง River เช่น เราอยู่ตรง Flop มี 6 Outs และอยากจะหาว่ามีโอกาสติดเท่าไหร่ตรง Turn ก็นำ 6*3= 18% ส่วนถ้าเราอยากรู้ว่าถ้าจะไปถึง River เลยจะมีโอกาสรวมเท่าไหร่ก็จะเป็น 6*6= 36%

3. ปรับเทคนิคจากการเล่น Texas Hold’em 

ใน 6+ มีการนำไพ่ 2-5 ออกจากสำรับ เหลือแต่ไพ่สูง ทำให้การติดไพ่สูงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่าย ไม่ใช่เรื่องแปลก เมื่อจำนวนไพ่เปลี่ยนไป เทคนิคการเล่นก็ต้องเปลี่ยนไปด้วย ใน 6+ ไพ่จะติด Straight และไพ่ Set หรือตองได้ง่ายมาก หากเราติดไพ่เหล่านี้แต่เป็น Straight หรือ Set ที่ไม่สูงมาก ต้องระวังไพ่ของผู้เล่นคนอื่นติด Straight หรือ Set ที่สูงกว่า แต่เทคนิคการเล่ยจากเกม NLH ปกติ ได้แก่ การเล่น loose ที่ button, ปกป้อง big blind ด้วย range ที่กว้าง และ 3-bet ด้วย range ที่ดี ยังสามารถใช้ได้สำหรับการเล่นแบบ 6+

ถึงแม้คุณจะเป็นผู้เล่นมือใหม่ ผู้เล่น NLH หรือผู้เล่น PLO ที่สนใจมาเล่นเกมโป๊กเกอร์ประเภท 6+ หลังจากได้อ่านบทความนี้แล้ว คุณก็พร้อมสำหรับการลงสนามจริงในการเริ่มเล่น 6+ ได้เลย เพราะในบนความนี้ได้รวบรวมข้อมูลพื้นฐาน และเทคนิคในการเล่นเกมไพ่โป๊กเกอร์ประเภท 6+ Hold’em ไว้อย่างครบถ้วน ถ้าพร้อมแล้ว ไปลุยกันได้เลย