Pot-limit Omaha (PLO) หรือเรียกสั้นๆว่า Omaha Poker เป็นเกมโป๊กเกอร์ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 2 รองจาก Texas Hold’em ในอดีต Omaha เป็นที่นิยมเพียงแค่ในโซนประเทศฝั่งยุโรป แต่ในปัจจุบัน Omaha เป็นที่นิยมทั้งในสหรัฐอเมริกาและเว็บไซต์โป๊กเกอร์ออนไลน์มากมาย โดย Omaha มีวิธีเล่นโป๊กเกอร์ที่คล้ายกันกับเกมโป๊กเกอร์ประเภท Texas Hold’em ทำให้ผู้ที่มีพื้นฐานจากการเล่น Texas Hold’em มาก่อนสามารถศึกษาและเข้าใจได้อย่างง่ายดาย โดยมีการเรียงลำดับความแข็งแกร่งของไพ่ หรือ Hand Ranking ที่เหมือนกัน (สามารถอ่านเพิ่มเติมเรื่องลำดับไพ่ได้ที่ เรื่องนี้ ไม่รู้ไม่ได้ ! “ลำดับไพ่ poker” ) แต่จะความผันผวนของเกมมากกว่า เนื่องจากได้รับไพ่เริ่มต้นมากกว่า 2 ใบนั่นเอง
กฎ กติกา ในการเล่น PLO
- ใน Omaha จะมีความแตกต่างจาก Texas Hold’em คือจำนวนไพ่ที่ได้รับแจก 4 ใบแทนที่จะเป็น 2 ใบ และบังคับให้คุณต้องเลือกใช้แค่ 2 ใบไปรวมกับไพ่กองกลาง (Community Cards) อีก 3 ใบจากไพ่กองกลาง 5 ใบเท่านั้น
- ใน Texas Hold’em ไพ่ 1 คู่หรือ 2 คู่ก็เรียกได้ว่าแทบจะชนะแน่นอน แต่ในทางกลับกัน Omaha ไพ่ 1 คู่ หรือ 2 คู่ไม่ค่อยจะดีมากนัก เพราะใน Omaha มีโอกาสที่จะติดสีหรือเรียงเยอะมาก
- โดยทั่วไปเกม Omaha จะนิยมใช้รูปแบบการลงเงินแบบจำกัดที่ขนาด Pot (Pot limit) ทำให้ผู้เล่นไม่สามารถลงเงินเดิมพันเกินกว่าราคา Pot ได้และหากจะทำการ Raise ที่ราคาสูงที่สุดผู้เล่นจะต้องเพิ่มเงินตามราคา Call ก่อนหน้าเข้าไปก่อน
ตัวอย่างการวางเงินเดิมพัน
สมมุติเกม PLO ราคา Blind 5/10 หมายถึงตำแหน่ง Small Blind ลงเดิมพัน $5 และตำแหน่ง Big Blind ลงเดิมพัน $10 หากผู้ที่เริ่มเล่นคนแรกตัดสินใจ Call ตามที่ราคา $10 หลังจากนั้นผู้เล่นคนที่สองสามารถเลือกได้ว่าจะ Call ตามแค่ที่ $10 หรือจะ Raise กลับโดยเพิ่มเดิมพันจากราคา Call อีก $35 (ราคา Pot ) คือ $5 (Small Blind) + $10 (Big Blind) + $10 (ผู้เล่นคนแรกที่ Call) + $10 (ผู้เล่นคนสองที่ Call) หากผู้เล่นคนที่สองต้องการจะ Raise สามารถ Raise ได้สูงสุดที่ราคา $45 (ราคา Call $10 + ราคาPot $35 )
เทคนิคในการเล่น PLO
1.การเลือกไพ่เริ่มต้น
ไพ่เริ่มต้นที่ดีที่สุดของเกมโป๊กเกอร์ประเภท Omaha นั้นจะประกอบไปด้วย ไพ่คู่ใหญ่ๆ ที่มี Double-Suited หรือการที่เรามีโอกาสติด Flush ได้สองทาง เช่น ไพ่อย่าง A♥A♦J♥5♦ เพราะมีคู่ใหญ่ๆอย่าง AA และมี A-high Double-Suited ด้วย เพราะถ้าคุณติดตอง หรือ Set ตรง Flop คุณจะมี Top Set เสมอและ Flush Draw ของคุณทั้งสองอันจะเป็น Nut Flush เสมอเช่นกัน ส่วนไพ่รองๆ สามารถอ้างอิงได้ตามลำดับความแข็งแกร่งของไพ่ได้เลย โดย Omaha มีโอกาสที่จะติดสีหรือเรียงง่ายมาก ดังนั้นคุณไม่ควรให้ค่ากับไพ่ 1 คู่ หรือ 2 คู่มากนัก และ Bluff ใน Omaha จะจะมีน้อยมาก หากมีผู้เล่นคนไหน Bet มาหนักๆผู้เล่นเหล่านั้นมักจะมีไพ่ที่ดีอยู่ในมือเสมอ
2.PLO เป็นเกมที่เล่นหลัง Flop ออก
ในรอบ Pre-flop ในเกมประเภท Texas Hold’em คุณจะมีโอกาสชนะประมาณ 80% ในขณะที่ Omaha คุณจะเหลือโอกาสชนะแค่ประมาณ 66% เท่านั้น ดังนั้น PLO จึงเป็นเกมที่เน้นเล่นกันช่วง Flop ออกมากกว่าซึ่งจะตรงกันข้ามกับ Texas Hold’em หากคุณถือ AA ตอน Flop ออกใน Texas Hold’em คุณจะมีโอกาสชนะมากกว่าอีกฝ่ายแทบทุกครั้ง แต่ใน Omaha หากคุณถือ AAxx จะมีโอกาสชนะเยอะกว่าในช่วง Pre-flop แต่โอกาสชนะจะเหลือน้อยลงมากในตอนที่ Flop ออกมา เพราะคู่ต่อสู้ของคุณมักจะมี 2 คู่ หรือ รอไพ่ดีๆอยู่เยอะมาก
3.ตำแหน่งในการเล่น
ตำแหน่งการเล่นเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญมาก เนื่องจาก Omaha เป็นเกมที่ตามไพ่จนกองกลาง Draw ครบ 5 ใบ เพื่อให้ติดไพ่ดีมากกว่าที่จะเล่นไพ่ใหญ่ๆ เช่น AA หรือ KK ซึ่งหากคุณมีตำแหน่งที่ดีกว่าก็จะทำให้การเล่นของคุณนั้นง่ายขึ้นเพราะคุณสามารถใช้ประโยชน์จากตำแหน่งของคุณ Bluff คู่ต่อสู้เพื่อทำกำไรได้และยิ่งไปกว่านั้นคู่ต่อสู้ก็จะ Bluff คุณได้ยากเพราะอยู่ในตำแหน่งที่แย่กว่า
เกม Omaha เป็นเกมโป๊กเกอร์ที่มีความผันผวนทุกครั้งที่มีไพ่เปิดออก ทำให้มีจุดที่ต้องคิดและตัดสินใจเยอะมาก เราจึงได้นำวิธีการเล่นและเทคนิคการเล่นมาแนะนำคุณเพื่อให้ในการเล่นเกมไพ่โป๊กเกอร์ประเภท PLO หรือ Omaha ของคุณสนุกและดียิ่งขึ้น ซึ่งการเล่น PLO บ่อยๆ จะช่วยให้คุณได้พัฒนาและต่อยอดกระบวนการคิดและทักษะในการเล่นโป๊กเกอร์ของคุณ
Pingback: เคยเล่นรูปแบบเกมโป๊กเกอร์ 6+ กันหรือยัง ? - X-POKERTH